ลดต้นขา การออกกำลังกายลดต้นขาเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดขนาดและกระชับต้นขา โดยการออกกำลังกายจะช่วยเผาผลาญไขมันและสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้ต้นขาดูเล็กลงและกระชับขึ้น ท่าออกกำลังกายลดต้นขาควรทำอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ควรเริ่มออกกำลังกายด้วยท่าที่ง่ายก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มระดับความยากขึ้นตามลำดับ ที่สำคัญควรวอร์มอัพก่อนออกกำลังกายทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ
ท่าออกกำลังกายลดต้นขาที่นิยมทำกัน
- ท่าสควอท (Squat) เป็นท่าออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับลดต้นขา ท่านี้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้าง
- ท่าลันจ์ (Lunge) เป็นท่าออกกำลังกายที่ช่วยบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า และด้านหลัง
- ท่าปั่นจักรยาน (Bicycle Crunch) เป็นท่าออกกำลังกายที่ช่วยบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านข้าง
- ท่ายกขา (Leg Raise) เป็นท่าออกกำลังกายที่ช่วยบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง
นอกจากท่าออกกำลังกายที่กล่าวมาแล้ว ยังมีท่าออกกำลังกายลดต้นขาอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ท่ากระโดดตบ (Jumping Jacks) ท่ากระโดดเชือก (Jump Rope) ท่าเดินขึ้นลงบันได (Stair Climbing) เป็นต้น
แนะนำ 4 ท่าลดต้นขาที่ทำได้ทุกๆวัน
ท่าสควอท (Squat) เป็นท่าออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับลดต้นขา ท่านี้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้าง จึงมีประสิทธิภาพในการลดขนาดและกระชับต้นขา
วิธีทำท่าสควอท
- ยืนตรง แยกเท้าให้กว้างเท่าช่วงไหล่ ปลายเท้าชี้ไปด้านหน้า
- ย่อตัวลงโดยงอเข่าทั้งสองข้าง พยายามให้สะโพกต่ำลงจนต่ำกว่าระดับเข่า
- ย่อตัวลงจนสุดแล้ว เกร็งกล้ามเนื้อต้นขา ยกตัวขึ้นโดยเหยียดขาทั้งสองข้าง
- ยืดตัวขึ้นจนสุดแล้ว ย่อตัวลงอีกครั้ง ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง
ประโยชน์ของท่าสควอท
- ช่วยบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้าง
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว
- ช่วยลดน้ำหนักและลดไขมันส่วนเกิน
- ช่วยเสริมสร้างระบบไหลเวียนโลหิต
- ช่วยป้องกันอาการปวดหลัง
ท่าลันจ์ (Lunge) เป็นท่าออกกำลังกายที่ช่วยลดต้นขาได้เป็นอย่างดี ท่านี้ช่วยบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า และด้านหลัง จึงมีประสิทธิภาพในการลดขนาดและกระชับต้นขา
วิธีทำท่าลันจ์
- ยืนตรง แยกเท้าให้กว้างเท่าช่วงไหล่ ปลายเท้าชี้ไปด้านหน้า
- ก้าวเท้าข้างหนึ่งไปข้างหน้า โดยให้ขาข้างหลังเหยียดตรง
- ย่อตัวลงโดยงอเข่าทั้งสองข้าง พยายามให้สะโพกต่ำลงจนต่ำกว่าระดับเข่า
- ย่อตัวลงจนสุดแล้ว เกร็งกล้ามเนื้อต้นขา ยกตัวขึ้นโดยเหยียดขาทั้งสองข้าง
- ยืดตัวขึ้นจนสุดแล้ว ก้าวเท้ากลับไปยังท่าเริ่มต้น ทำซ้ำข้างละ 10-15 ครั้ง
ประโยชน์ของท่าลันจ์
- ช่วยบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า และด้านหลัง
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว
- ช่วยลดน้ำหนักและลดไขมันส่วนเกิน
- ช่วยเสริมสร้างระบบไหลเวียนโลหิต
- ช่วยป้องกันอาการปวดหลัง
นอกจากท่าลันจ์แบบพื้นฐานแล้ว ยังมีท่าลันจ์แบบอื่นๆ
- ท่าลันจ์ด้านข้าง (Lateral Lunge) เป็นท่าที่เน้นบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านข้าง
- ท่าลันจ์แบบก้าวไขว้ (Cross-Over Lunge) เป็นท่าที่เน้นบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า และด้านหลัง
- ท่าลันจ์แบบก้าวยาว (Forward Lunge) เป็นท่าที่เน้นบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า และด้านหลัง
ท่าปั่นจักรยาน (Bicycle Crunch) เป็นท่าออกกำลังกายที่ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหน้าท้องด้านข้าง (Obliques) ท่านี้ช่วยให้หน้าท้องกระชับขึ้นและลดเอวได้ดี
วิธีทำท่าปั่นจักรยาน
- นอนหงาย ยกศีรษะขึ้นเล็กน้อย มือทั้งสองข้างวางไว้ข้างลำตัว
- ยกขาขึ้นตั้งฉาก งอเข่าเล็กน้อย
- เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง บิดตัวไปด้านข้าง โดยยกเข่าข้างหนึ่งขึ้นแตะไหล่อีกข้างหนึ่ง
- บิดตัวกลับด้านโดยยกเข่าอีกข้างหนึ่งขึ้นแตะไหล่อีกข้างหนึ่ง
- ทำซ้ำข้างละ 15-20 ครั้ง
ประโยชน์ของท่าปั่นจักรยาน
- ช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหน้าท้องด้านข้าง
- ช่วยกระชับหน้าท้องและลดเอว
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว
- ช่วยลดน้ำหนักและลดไขมันส่วนเกิน
ท่ายกขา (Leg Raise) เป็นท่าออกกำลังกายที่ช่วยบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง (Hamstrings) ท่านี้ช่วยให้ต้นขาด้านหลังแข็งแรงขึ้นและกระชับขึ้น
วิธีทำท่ายกขา
- นอนหงาย ขาเหยียดตรง ปลายเท้าชี้ไปด้านบน
- เกร็งกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง ยกขาขึ้นจนลำตัวและขาตั้งฉากกัน
- ค้างท่าไว้ 1-2 วินาที แล้วค่อยๆ ลดขาลงกลับสู่ท่าเริ่มต้น
- ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง
ประโยชน์ของท่ายกขา
- ช่วยบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง (Hamstrings)
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว
- ช่วยลดน้ำหนักและลดไขมันส่วนเกิน
ข้อควรระวังในการทำท่าลดต้นขา
- ขณะย่อตัวลง พยายามให้หลังตรง ไม่แอ่นหรือโค้ง
- หัวเข่าทั้งสองข้างต้องไม่เลยปลายเท้า
- ไม่ควรย่อตัวลงจนเกินไปจนทำให้รู้สึกเจ็บบริเวณหลังหรือเข่า
- ไม่ควรบิดตัวจนเกินไปจนทำให้รู้สึกเจ็บบริเวณคอหรือหลัง
คำแนะนำในการออกกำลังกายลดต้นขา
- ควรเริ่มออกกำลังกายด้วยท่าที่ง่ายก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มระดับความยากขึ้นตามลำดับ
- ควรวอร์มอัพก่อนออกกำลังกายทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ
- ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์
- ควรดื่มน้ำให้เพียงพอระหว่างออกกำลังกาย
- ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง
นอกจากการออกกำลังกายแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อรูปร่างของต้นขา เช่น พันธุกรรม ฮอร์โมน และระดับกิจกรรมทางกาย ผู้ที่มีปัญหาต้นขาใหญ่ หรือขาเบียด ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกาย เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับตนเอง
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับลดต้นขา
- วิธีการบริหารก่อนทำท่าลดต้นขา ?
- ยืนตัวตรง กางขาออกเล็กน้อยให้ปลายเท้ากว้างประมาณไหล่ มือประสานกันไว้ที่ท้ายทอย ย่อตัวลงเหมือนกับท่าสควอท ต้นขาตั้งฉาก จากนั้นกระโดดขึ้นขาเหยียดตรง แล้วย่อตัวลงแล้วกระโดดเหมือนเดิม
- ควรเริ่มออกกำลังกายด้วยท่าไหนก่อน ?
- ควรเริ่มออกกำลังกายด้วยท่าที่ง่ายก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มระดับความยากขึ้นตามลำดับ
- ประโยชน์ของท่ายกขามีอะไรบ้าง ?
- ช่วยบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง และ
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว
- ข้อควรระวังในการลดต้นขามีอะไรบ้าง ?
- ไม่ควรย่อตัวลงจนเกินไปจนทำให้รู้สึกเจ็บบริเวณหลังหรือเข่า และ ขณะย่อตัวลง พยายามให้หลังตรง ไม่แอ่นหรือโค้ง
บทความที่น่าสนใจ : คอร์กี้ แนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนนำสุนัขสายพันธุ์คอร์กี้มาเลี้ยง